[go: up one dir, main page]
More Web Proxy on the site http://driver.im/

Stripe launches in Thailand

  • Thai businesses can now use Stripe to accept payments via major credit cards and Thailand-based payment method PromptPay.
  • Thousands of Thai businesses have already signed up on Stripe.

BANGKOK—Today Stripe announced its general availability in Thailand, where its financial infrastructure platform will help solve the complex payments issues facing Thai businesses.

“Thailand’s digital economy is one of the fastest growing in Southeast Asia. However, moving money on the internet remains incredibly complicated and cumbersome,” said Tee Chayakul, Thailand country director at Stripe. “We want to remove these barriers with financial infrastructure that helps ambitious businesses increase their revenue, automate low-value tasks, and expand internationally.”

Thousands of companies in Thailand have already signed up on Stripe during a beta phase over the past year. They include the online property platform Baania, leading luxury furniture retailer Chanintr, holiday resort Coconut Beach Bungalows, accounting software platform FlowAccount, and digital creator platform Storior.

“I’m excited by Stripe’s launch in Thailand and pleased to see they are supporting many more local payment methods in the region. This will help us reach customers in new markets,” said Mr. Apiporn Simapornchai, chief technology officer of Baania.

"We appreciate the ease of integration with Stripe’s payments solution. Partnering with Stripe will help more Thai companies simplify their accounting operations and accept payments online easily,” said Mr. Kridsada Chutinaton, CEO and cofounder of FlowAccount.

Thai companies now have full access to powerful Stripe solutions like Billing for subscriptions and recurring payments, Checkout and Payment Links for ecommerce, Invoicing for automated payment collection and reconciliation, Radar for fraud detection and prevention, Connect for software platforms and marketplaces, and more.

Thai businesses will be able to accept payments via major credit cards like Visa and Mastercard, as well as through PromptPay, a Thailand-based payment method that uses unique identifiers such as a phone number, citizen ID, or QR code to allow customers to make payments using their preferred apps. Stripe collaborated closely with the Bank of Thailand as it prepared to roll out payment services support for Thai businesses.

“The Bank of Thailand supports the provision of digital payment services, which are convenient, safe and serve the needs of customers, enhancing inclusivity of payment services. Stripe’s business launch in Thailand will certainly help support the development of innovation and the wider access of digital payment services for both individuals and businesses,” said Miss Siritida Panomwon Na Ayudhya, assistant governor of payment systems policy and financial technology group​ of the Bank of Thailand.

The launch expands Stripe’s investment in Asia Pacific where its services are available to support businesses in Australia, Hong Kong, Japan, Malaysia, New Zealand, Singapore, and Thailand.

Stripe เปิดตัวในประเทศไทย

  • ธุรกิจในประเทศไทยสามารถใช้ Stripe เพื่อรับชําระเงินผ่านบัตรเครดิตชั้นนำและการชําระเงินด้วยพร้อมเพย์ได้แล้ววันนี้
  • ธุรกิจหลายพันแห่งในประเทศไทยเลือกใช้บริการของ Stripe

กรุงเทพฯ - Stripe แพลตฟอร์มผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินสำหรับธุรกิจต่าง ๆ และช่วยแก้ปัญหาขั้นตอนการชําระเงินอันซับซ้อน ประกาศพร้อมให้บริการในประเทศไทยแล้ววันนี้

“ประเทศไทยมีเศรษฐกิจดิจิทัลที่โตเร็วที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อย่างไรก็ตามการโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ก็ยังมีความยุ่งยากและขาดประสิทธิภาพอยู่ Stripe ต้องการกำจัดอุปสรรคเหล่านี้ด้วยการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน เพื่อช่วยให้ธุรกิจที่มีความมุ่งมั่น สามารถเพิ่มรายได้ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และได้ใช้ระบบอัตโนมัติกับงานที่สร้างมูลค่าต่ำของธุรกิจ พร้อมช่วยในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลกโดยการบริหารจัดการที่สะดวกสบาย” คุณธีร์ ฉายากุล ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท Stripe ประเทศไทยกล่าว

ธุรกิจหลายพันแห่งในประเทศไทยได้สมัครใช้บริการของ Stripe ในช่วงปีที่ผ่านมา เช่น แพลตฟอร์มตลาดอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ Baania แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับหรู Chanintr โครงการรีสอร์ทพักตากอากาศ Coconut Beach Bungalows แพลตฟอร์มโปรแกรมบัญชี FlowAccount และแพลตฟอร์มออกแบบคาแรคเตอร์ Storior

“เราชื่นชมโซลูชันการชําระเงินของ Stripe ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย การร่วมเป็นพันธมิตรกับ Stripe จะช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยสามารถบริหารจัดการงานบัญชีและสามารถรับชำระเงินออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย” คุณกฤษฎา ชุตินธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง FlowAccount กล่าวเสริม

ทุกธุรกิจในประเทศไทยสามารถใช้งานโซลูชันที่มีประสิทธิภาพนี้ของ Stripe เช่น ระบบ Billing ที่ครอบคลุมการออกใบเสร็จเรียกเก็บค่าสินค้าและบริการ และการชำระเงินตามรอบ ระบบ Checkout และ ระบบ Payment Links สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ระบบ Invoicing สำหรับการออกใบแจ้งหนี้เพื่อการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ และการกระทบยอดธุรกรรมแบบอัตโนมัติ ระบบ Radar สำหรับตรวจจับและป้องกันการทุจริต ระบบ Connect สำหรับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ และมาร์เก็ตเพลส และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทย ยังสามารถรับการชำระเงิน จากบัตรเครดิตชั้นนำ เช่น วีซ่า และ มาสเตอร์การ์ด รวมถึงการรับชำระเงินผ่านพร้อมเพย์ หนึ่งในวิธีการชําระเงินในประเทศไทยที่ใช้ข้อมูลระบุตัวตน เช่น หมายเลขโทรศัพท์ เลขบัตรประจําตัวประชาชน หรือรหัส QR เพื่อให้ลูกค้าสามารถชําระเงินโดยใช้แอปพลิเคชันที่ต้องการได้ ทั้งนี้ Stripe ได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมการเปิดตัวบริการชําระเงินสําหรับธุรกิจไทยอีกด้วย

“ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมสนับสนุนการบริการด้านการชำระเงินดิจิทัลที่มีความหลากหลาย เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการด้านการชำระเงินได้อย่างทั่วถึง การที่ Stripe เข้ามาเปิดบริการในประเทศไทย จะช่วยพัฒนานวัตกรรมและการเข้าถึงบริการชำระเงินของประชาชนและธุรกิจได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น” คุณสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการเปิดตัวของ Stripe ในประเทศไทย

การเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในการให้บริการและการขยายธุรกิจของ Stripe ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อรองรับธุรกิจอย่างครอบคลุมในออสเตรเลีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และประเทศไทย