TH2101003097A - ฟอยล์อะคริลิกที่มีคุณสมบัติการปกป้องแสง uv ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น - Google Patents

Abstract

การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับฟอยล์ที่ต้านทานต่อสภาพอากาศโปร่งใสสำหรับการปกป้อง ซับสเตรตที่หลากหลายต่อการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ในรูปลักษณ์หนึ่งของการประดิษฐ์ฟอยล์ประกอบ รวมด้วยชั้นอย่างน้อยสองชั้น A และ B ที่ซึ่ง การส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของชั้น A ที่ความยาวคลื่นใด ๆ แลมดาA ไม่มากกว่า 10% ที่ซึ่ง 270 nm (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดาA (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) 360 nm และ การส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของชั้น B ที่ความยาวคลื่นใด ๆ แลมดาB ไม่มากกว่า 10% ที่ซึ่ง 270 nm (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดาB (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) 370 nm ในรูปลักษณ์เพิ่มเติมของการประดิษฐ์ ฟอยล์ประกอบรวมด้วยชั้นอย่างน้อยสองชั้น A และ B ที่ซึ่ง การส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของชั้น A ที่ความยาวคลื่นใด ๆ แลมดาA ไม่มากกว่า 20% ที่ซึ่ง 270 nm (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดาA (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) 310 nm และ การส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของชั้น B ที่ความยาวคลื่นใด ๆ แลมดาB ไม่มากกว่า 10% ที่ซึ่ง 270 nm (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดาB (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) 370 nm

Claims (17)

1. 1. ฟอยล์แบบหลายชั้นซึ่งประกอบรวมด้วยอย่างน้อยชั้น A และชั้น B ที่ซึ่งชั้น A ประกอบ รวมด้วย ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักทั้งหมดของ ชั้น A: ตั้งแต่ 0.0 ถึง 99.9% โดยนํ้าหนักของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลต; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 95.0% โดยนํ้าหนักของสารดัดแปลงการทนต่อแรงกระแทกหนึ่งชนิดหรือหลาย ชนิด; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 30.0% โดยนํ้าหนักของฟลูออโรโพลิเมอร์; ตั้งแต่ 0.1 ถึง 5.0% โดยนํ้าหนักของสารดูดกลืนแสง UV ที่หนึ่ง; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 5.0% โดยนํ้าหนักของสารทำให้คงตัวต่อแสง UV หนึ่งชนิดหรือหลายชนิด; ที่ซึ่งปริมาณสะสมของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลตและของสารดัดแปลงการทนต่อแรงกระแทก หนึ่งชนิดหรือหลายชนิดในชั้น A เป็นอย่างน้อย 50% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นอย่างน้อย 60% โดย นํ้าหนัก, ที่นิยมมากกว่าเป็นอย่างน้อย 70% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมยิ่งไปกว่านั้นเป็นอย่างน้อย 80% โดย นํ้าหนัก, ที่นิยมยิ่งกว่านั้นอีกเป็นอย่างน้อย 90% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นพิเศษเป็นอย่างน้อย 95% โดย นํ้าหนัก และไม่มากกว่า 99.9% โดยนํ้าหนัก ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของชั้น A และที่ซึ่ง การส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของชั้น A ที่ความยาวคลื่นใด ๆ แลมดาA ไม่มากกว่า 10% ที่ซึ่ง 270 nm (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดาA (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) 360 nm และ ชั้น B ประกอบรวมด้วย ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักทั้งหมดของ ชั้น B: ตั้งแต่ 0.0 ถึง 99.9% โดยนํ้าหนักของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลต; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 85.0% โดยนํ้าหนักของสารดัดแปลงการทนต่อแรงกระแทกหนึ่งชนิดหรือหลาย ชนิด; ตั้งแต่ 0.1 ถึง 5.0% โดยนํ้าหนักของสารดูดกลืนแสง UV ที่สอง ซึ่งต่างจากสารดูดกลืนแสง UV ที่หนึ่ง ตั้งแต่ 0.0 ถึง 5.0% โดยนํ้าหนักของสารทำให้คงตัวต่อแสง UV หนึ่งชนิดหรือหลายชนิด และ ตั้งแต่ 0.0 ถึง 20.0% โดยนํ้าหนักของโคโพลิเมอร์ที่ส่งเสริมการยึดติดซึ่งประกอบรวมด้วย (i) ตั้งแต่ 70.0 ถึง 95.0% โดยนํ้าหนักเมธิลเมธาคริเลต; (ii) ตั้งแต่ 0.5 ถึง 15.0% โดยนํ้าหนักมาเลอิกแอนไฮไดรด์และ (iii) ตั้งแต่ 0.0 ถึง 25.0% โดยนํ้าหนักของไวนิลโมโนเมอร์ที่สามารถโคโพลิเมอไรเซชัน ได้อื่น ๆ ซึ่งไม่มีหมู่ฟังก์ชันนอกเหนือจากฟังก์ชันไวนิล ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของโคโพลิ เมอร์ที่ส่งเสริมการยึดติด และ ที่ซึ่งปริมาณสะสมของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลตและของสารคัดแปลงการทนต่อแรงกระแทก หนึ่งชนิดหรือหลายชนิดในชั้น B เป็นอย่างน้อย 50% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นอย่างน้อย 60% โดย นํ้าหนัก, ที่นิยมมากกว่าเป็นอย่างน้อย 70% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมยิ่งไปกว่านั้นเป็นอย่างน้อย 80% โดย นั้าหนัก, ที่นิยมยิ่งกว่านั้นอีกเป็นอย่างน้อย 90% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นพิเศษเป็นอย่างน้อย 95% โดย น้ำหนัก และไม่มากกว่า 99.9% โดยนํ้าหนัก ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของน้ำหนักของชั้น B และที่ซึ่ง การส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของชั้น B ที่ความยาวคลื่นใด ๆ แลมดาB ไม่มากกว่า 10% ที่ซึ่ง 270 nm (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดาB (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) 370 nm และ ชั้น A ประกอบรวมด้วยไม่มากกว่า 0.1% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นไม่มากกว่า 0.05% โดย นํ้าหนักของสารดูดกลืนแสง UV ที่สอง และ ชั้น B ประกอบรวมด้วยไม่มากกว่า 0.1% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นไม่มากกว่า 0.05% โดย น้ำหนักของสารดูดกลืนแสง UV ที่หนึ่ง

2. ฟอยล์แบบหลายชั้นซึ่งประกอบรวมด้วยอย่างน้อยชั้น A และชั้น B ที่ซึ่งชั้น A ประกอบ รวมด้วย ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักทั้งหมดของ ชั้น A: ตั้งแต่ 0.0 ถึง 99.0% โดยนํ้าหนักของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลต; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 95.0% โดยนํ้าหนักของสารดัดแปลงการทนต่อแรงกระแทกหนึ่งชนิดหรือหลาย ชนิด; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 30.0% โดยน้ำหนักของฟลูออโรโพลิเมอร์; ตั้งแต่ 1.0 ถึง 30.0% โดยน้ำหนักของสารดูดกลืนแสง UV ที่หนึ่ง ที่ซึ่งสารดูดกลืนแสง UV ที่ หนึ่งเป็นวัสดุที่เป็นอนุภาคอนินทรีย์ซึ่งที่นิยมถูกเลือกจากซิงก์ออกไซด์, ไทเทเนียมไดออกไซด์, ซีเรยมไดออกไซด์, ทินไดออกไซด์, ซิลิกา และแก้ว และ ตั้งแต่ 0.0 ถึง 5.0% โดยนํ้าหนักของสารทำให้คงตัวต่อแสง UV หนึ่งชนิดหรือหลายชนิด; ที่ซึ่งปริมาณสะสมของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลตและของสารคัดแปลงการทนต่อแรงกระแทก หนึ่งชนิดหรือหลายชนิดในชั้น A เป็นอย่างน้อย 50% โดยน้ำหนัก, ที่นิยมเป็นอย่างน้อย 60% โดย นํ้าหนัก, ที่นิยมมากกว่าเป็นอย่างน้อย 70% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมยิ่งไปกว่านั้นเป็นอย่างน้อย 80% โดย นํ้าหนัก, ที่นิยมยิ่งกว่านั้นอีกเป็นอย่างน้อย 90% โดยน้ำหนัก, ที่นิยมเป็นพิเศษเป็นอย่างน้อย 95% โดย น้ำหนัก และไม่มากกว่า 97.0% โดยน้ำหนัก ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของชั้น A และที่ซึ่ง การส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของชั้น A ที่ความยาวคลื่นใด ๆ แลมดาA ไม่มากกว่า 20% ที่ซึ่ง 270 (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดาA (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) 310 nm และ ชั้น B ประกอบรวมด้วย ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของน้ำหนักทั้งหมดของ ชั้น B: ตั้งแต่ 0.0 ถึง 99.9% โดยนํ้าหนักของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลต; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 85.0% โดยนํ้าหนักของสารดัดแปลงการทนต่อแรงกระแทกหนึ่งชนิดหรือหลาย ชนิด; ตั้งแต่ 0.1 ถึง 5.0% โดยนํ้าหนักของสารดูดกลืนแสง UV ที่สอง ซึ่งต่างจากสารดูดกลืนแสง UV ที่หนึ่ง ตั้งแต่ 0.0 ถึง 5.0% โดยนํ้าหนักของสารทำให้คงตัวต่อแสง UV หนึ่งชนิดหรือหลายชนิด และ ตั้งแต่ 0.0 ถึง 20.0% โดยนํ้าหนักของโคโพลิเมอร์ที่ส่งเสริมการยึดติดซึ่งประกอบรวมด้วย (i) ตั้งแต่ 70.0 ถึง 95.0% โดยนํ้าหนักเมธิลเมธาคริเลต; (ii) ตั้งแต่ 0.5 ถึง 15.0%โดยนํ้าหนักมาเลอิกแอนไฮไดรด์และ (iii) ตั้งแต่ 0.0 ถึง 25.0% โดยนํ้าหนักของไวนิลโมโนเมอร์ที่สามารถโคโพลิเมอไรเซชัน ได้อื่น ๆ ซึ่งไม่มีหมู่ฟังก์ชันนอกเหนือจากฟังก์ชันไวนิล ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของโคโพลิ เมอร์ที่ส่งเสริมการยึดติด และ ที่ซึ่งปริมาณสะสมของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลตและของสารดัดแปลงการทนต่อแรงกระแทก หนึ่งชนิดหรือหลายชนิดในชั้น B เป็นอย่างน้อย 50% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นอย่างน้อย 60% โดย นํ้าหนัก, ที่นิยมมากกว่าเป็นอย่างน้อย 70% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมยิ่งไปกว่านั้นเป็นอย่างน้อย 80% โดย นํ้าหนัก, ที่นิยมยิ่งกว่านั้นอีกเป็นอย่างน้อย 90% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นพิเศษเป็นอย่างน้อย 95% โดย นํ้าหนัก และไม่มากกว่า 99.9% โดยนํ้าหนัก ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของชั้น B และที่ซึ่ง การส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของชั้น B ที่ความยาวคลื่นใด ๆ แลมดาB ไม่มากกว่า 10% ที่ซึ่ง 270 nm (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดาB (น้อยกว่าหรือเท่ากับ)370 nm และ ชั้น A ประกอบรวมด้วยไม่มากกว่า 0.1% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นไม่มากกว่า 0.05% โดย นํ้าหนักของสารดูดกลืนแสง UV ที่สอง และ ชั้น B ประกอบรวมด้วยไม่มากกว่า 0.1% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นไม่มากกว่า 0.05% โดย นํ้าหนักของสารดูดกลืนแสง UV ที่หนึ่ง

3. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งฟอยล์ประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยชั้นที่ส่งเสริมการยึดติด C ที่ซึ่งชั้น C ประกอบรวมด้วย ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของน้ำหนักทั้งหมดของชั้น C: ตั้งแต่ 0.0 ถึง 95.0% โดยนํ้าหนักของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลต; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 75.0% โดยนํ้าหนักของสารดัดแปลงการทนต่อแรงกระแทกหนึ่งชนิดหรือหลาย ชนิด; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 5.0% โดยน้ำหนักของสารดูดกลืนแสง UV ซึ่งที่นิยมเป็นสารดูดกลืนแสง UV ที่ สอง; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 5.0% โดยน้ำหนักของสารทำให้คงตัวต่อแสง UV หนึ่งชนิดหรือหลายชนิด และ ตั้งแต่ 5.0 ถึง 80.0% โดยนํ้าหนักของโคโพลิเมอร์ที่ส่งเสริมการยึดติดซึ่งประกอบรวมด้วย (i) ตั้งแต่ 70.0 ถึง 95.0% โดยนํ้าหนักเมธิลเมธาคริเลต; (ii) ตั้งแต่ 0.5 ถึง 15.0%โดยนํ้าหนักมาเลอิกแอนไฮไดรด์และ (iii) ตั้งแต่ 0.0 ถึง 25.0% โดยนํ้าหนักของไวนิลโมโนเมอร์ที่สามารถโคโพลิเมอไรเซชัน ได้อื่น ๆ ซึ่งไม่มีหมู่ฟังก์ชันนอกเหนือจากฟังก์ชันไวนิล ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของโคโพลิ เมอร์ที่ส่งเสริมการยึดติด และ ที่ซึ่งปริมาณสะสมของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลตและของสารดัดแปลงการทนต่อแรงกระแทก หนึ่งชนิดหรือหลายชนิดในชั้น C เป็นอย่างน้อย 20.0% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นอย่างน้อย 30.0% โดย นํ้าหนัก, ที่นิยมมากกว่าเป็นอย่างน้อย 40.0% โดยนํ้าหนัก และไม่มากกว่า 95.0% โดยนํ้าหนัก ซึ่งอยู่ บนพื้นฐานของนํ้าหนักของ ชั้น C และ ชั้น B ประกอบรวมด้วยน้อยกว่า 3.0% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นน้อยกว่า 1.0% โดยน้ำหนัก ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของชั้น B ของโคโพลิเมอร์ที่ส่งเสริมการยึดติดดังกล่าว

4. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 3 ข้อใด ๆ ที่ซึ่งฟอยล์ประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยชั้นที่มีฟลูออโร โพลิเมอร์เป็นพื้นฐาน D ซึ่งติดกับชั้น A ซึ่งชั้น D ประกอบรวมด้วย ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนัก ทั้งหมดของ ชั้น D: ตั้งแต่ 40.0 ถึง 100.0% โดยนํ้าหนักของฟลูออโรโพลิเมอร์อย่างน้อยหนึ่งชนิด; ตั้งแต่ 0.0 ถึง 60.0% โดยนํ้าหนักของโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลต และ ตั้งแต่ 0.0 ถึง 30.0% โดยนํ้าหนักของเม็ดมีดแก้วทรงกลมอย่างมีนัยสำคัญ

5. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 4 ข้อใด ๆ ที่ซึ่งฟลูออโรโพลิเมอร์ถูกเลือกจากโพลิไวนิลิดีน ฟลูออไรด์ (PVDF), โพลิไวนิลฟลูออไรด์ (PVF), โพลิเตตระฟลูออโรเอธิลีน (PTFE), โพลิเอธิลีน เตตระฟลูออโรเอธิลีน (ETFE), เอธิลีน-โพรพิลีนที่ถูกฟลูออริเนต (FEP) หรือของผสมหรือโคโพลิ เมอร์ของสิ่งนั้น

6. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 5 ข้อใด ๆ ที่ซึ่งฟอยล์ประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยชั้น E ซึ่งถูก กำหนดตำแหน่งไว้ระหว่างชั้น A และ ชั้น B และประกอบรวมด้วยการรวมกันของสารดูดกลืนแสง UV ที่หนึ่งและสารดูดกลืนแสง UV ที่สอง

7. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 และ 3 ถึง 6 ข้อใด ๆ ที่ซึ่ง ชั้น A ประกอบรวมด้วยตั้งแต่ 0.5 ถึง 3.0% โดยนํ้าหนัก ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของชั้น A ของสารประกอบประเภทไตรอะซีนในรูปสารดูดกลืนแสง UV ที่หนง และ ชั้น B ประกอบรวมด้วยตั้งแต่ 0.5 ถึง 4.0% โดยนํ้าหนัก ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักของชั้น B ของสารประกอบประเภทเบนโซไตรอะโซลในรูปสารดูดกลืนแสง UV ที่สอง

8. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 7 ข้อใด ๆ ที่ซึ่งสารทำให้คงตัวต่อแสง UV เป็นสารทำให้คงตัว ต่อแสงชนิดเอมีนที่มีการขัดขวาง (HALS) หรือสารต้านออกซิเดชัน 9. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 8 ข้อใด ๆ ที่ซึ่งโพลิเมธิล(เมธ)อะคริเลตเป็นโพลิเมธิลเมธา คริเลตซึ่งมีนํ้าหนักโมลาร์เฉลี่ย Mw ตั้งแต่ 80 000 กรัม/โมล ถึง 220 000 กรัม/โมล และสามารถได้มา โดยการโพลิเมอไรเซชันขององค์ประกอบซึ่งส่วนประกอบที่สามารถโพลิเมอไรเซชันไต้ของสิ่ง ดังกล่าวประกอบรวมด้วย ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของนํ้าหนักขององค์ประกอบที่สามารถโพลิเมอไรเซชัน ได้: (a) ตั้งแต่ 50.0 ถึง 99.9% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นตั้งแต่ 80.0 ถึง 99.9% โดยนํ้าหนัก, ที่ นิยมมากกว่าเป็นตั้งแต่ 91.0 ถึง 99.9% โดยนํ้าหนักของเมธิลเมธาคริเลต, (b) ตั้งแต่ 0.1 ถึง 50.0% โดยนํ้าหนัก, ที่นิยมเป็นตั้งแต่ 0.1 ถึง 20.0% โดยนํ้าหนัก, ที่ นิยมมากกว่าเป็นตั้งแต่ 0.1 ถึง

9.0% โดยนํ้าหนักของอะคริลิกแอซิดเอสเตอร์ของแอลกอฮอล์ C1-C4, (c) ตั้งแต่ 0.0 ถึง 10.0% โดยนํ้าหนักของโมโนเมอร์เพิ่มเติมอย่างน้อยหนึ่งชนิดที่ สามารถโคโพลิเมอไรเซชันได้กับ โมโนเมอร์ (a) และ (b)

10. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 9 ข้อใด ๆ ที่ซึ่ง ชั้น A มีความหนาตั้งแต่ 10.0ไมครอนถึง 100.0ไมครอน,ที่นิยมเป็นตั้งแต่ 15.0ไมครอน ถึง 50.0 ไมครอน, ที่นิยมมากกว่าเป็นตั้งแต่ 20.0 ไมครอน ถึง 40.0 ไมครอน และ ชั้น B มีความหนาตั้งแต่ 10.0 ไมครอน ถึง 80.0 ไมครอน, ที่นิยมเป็นตั้งแต่ 15.0 ไมครอน ถึง 50.0 ไมครอน, ที่นิยมมากกว่าเป็นตั้งแต่ 20.0 ไมครอน ถึง 40.0 ไมครอน; ชั้น C หากมี มีความหนาตั้งแต่ 1.0 ไมครอน ถึง 20.0 ไมครอน, ที่นิยมเป็นตั้งแต่ 2.0 ไมครอน ถึง 15.0 ไมครอน, ที่นิยมมากกว่าเป็นตั้งแต่ 3.0 ไมครอน ถึง 10.0 ไมครอน; ชั้น D หากมี มีความหนาตั้งแต่ 1.0 ไมครอน ถึง 40.0 ไมครอน, ที่นิยมเป็นตั้งแต่ 2.0 ไมครอน ถึง 30.0 ไมครอน, ที่นิยมมากกว่าเป็นตั้งแต่ 3.0 ไมครอน ถึง 20.0 ไมครอน และ ชั้น E หากมี มีความหนาตั้งแต่ 10.0 ไมครอน ถึง 80.0 ไมครอน,ที่นิยมเป็นตั้งแต่ 15.0 ไมครอน ถึง 50.0 ไมครอน, ที่นิยมมากกว่าเป็นตั้งแต่ 20.0 ไมครอน ถึง 40.0 ไมครอน

11. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 10 ข้อใด ๆ ที่ซึ่งฟอยล์มีการส่งผ่านเฉลี่ยไม่มากกว่า 40%, ที่ นิยมเป็นไม่มากกว่า 30%, ที่นิยมมากกว่าเป็นไม่มากกว่า 10% ในช่วงความยาวคลื่นตั้งแต่ 350 nm ถึง 390 nm

12. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1ถึง 11 ข้อใดๆที่ซึ่งการส่งผ่านเชิงสเปกตรัมของฟอยล์ที่ความยาว คลื่นใด ๆ แลมดา ไม่มากกว่า 5%, ที่นิยมเป็นไม่มากกว่า 2%, ที่นิยมมากกว่าเป็นไม่มากกว่า 1% ที่ซึ่ง 270 nm(น้อยกว่าหรือเท่ากับ) แลมดา (น้อยกว่าหรือเท่ากับ)370 nm หลังจากการทดสอบต่อสภาพอากาศที่ถูกเร่งเป็นเวลา 15 000 ชั่วโมง ตาม มาตรฐาน ISO 4892-2 (2013), วิธีการ 1, การสัมผัสการแผ่รังสี 30 GJ/m2

13. ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 12 ข้อใด ๆ ที่ซึ่งฟอยล์มีการส่งผ่านการส่องสว่าง D65 มากกว่า 60%, ที่นิยมเป็นมากกว่า 70%, ที่นิยมมากกว่าเป็นมากกว่า 80% สำหรับแต่ละความยาวคลื่น ตั้งแต่ 400 nm ถึง 800 nm ที่วัดก่อนการทดสอบต่อสภาพอากาศตามมาตรฐาน DIN EN ISO 13468-2 (2006)

14. วัตถุที่ถูกเคลือบซึ่งมีพื้นผิวภายนอกและซึ่งประกอบรวมด้วยซับสเตรตซึ่งถูกปกคลุม อย่างน้อยบางส่วนโดยฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 13 ข้อใด ๆ ที่ซึ่งฟอยล์ที่นิยมเป็นฟอยล์ที่ถูกอัดรีด ร่วมและประกอบรวมด้วยชั้นต่อไปนี้ที่ถูกกำหนดตำแหน่งไว้ในลำดับต่อไปนี้ ซึ่งเริ่มต้นจากพื้นผิว ภายนอก: อาจเลือกให้มี ชั้น D; ชั้น A; อาจเลือกให้มี ชั้น E; ชั้น B และ อาจเลือกให้มี ชั้น C

15. วัตถุที่ถูกเคลือบตามข้อถือสิทธิ 14 ที่ซึ่งวัตถุที่ถูกเคลือบเป็นลามิเนตความดันสูง (HPL), ลามิเนตความดันปานกลาง (MPL) หรือลามิเนตความดันต่อเนื่อง (CPL)

16. วัตถุที่ถูกเคลือบตามข้อถือสิทธิ 14 ถึง 15 ที่ซึ่ง ซับสเตรตเป็นกระดาษที่ถูกทำให้เต็มไป ด้วยเมลามีนเรซิน, วัสดุชนิดโพลิเมอร์ซึ่งเลือกให้ถูกเสริมแรงด้วยเส้นใย, ที่นิยมเป็นโพลิไวนิลคลอ ไรด์(PVC), โพลิคาร์บอเนตหรือโพลิโพรพิลีน (PP) หรือโลหะ ที่นิยมเป็นเหล็กกล้าหรืออะลูมิเนียม และฟอยล์ที่ถูกอัดริดร่วมถูกนำมาใช้โดยตรงกับซับสเตรต

17. การใช้ฟอยล์ตามข้อถือสิทธิ 1 ถึง 13 ข้อใด ๆ สำหรับการเคลือบซับสเตรต ที่นิยมเป็นโดย กระบวนการที่ถูกเลือกจากการอัดรีดร่วม, การอัดซ้อน หรือการอัดซ้อนด้วยการอัดรีด